ชิปปิ้งจีน ว่ากันว่า การช็อปปิ้งคือการบำบัดเครียดอย่างหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใด คนทั่วโลกจึงหลงใหลการช็อปปิ้ง ไปจนถึงขั้นเสพติด
โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนเข้าถึงโซเชียลมีเดีย การจับจ่ายใช้สอยสินค้าออนไลน์ จึงเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่คลิก และไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนของมุมโลก ก็สามารถซื้อสินค้าที่หายากได้ง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นบนแอปพลิเคชั่นบนมือถือ หรือกดสั่งซื้อในเว็บไซต์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดปี 2019 เรามาสรุปให้เห็นกันจะจะ มาว่ามีประเทศไหนบ้างบนโลกใบนี้ ที่มีประชากรเป็นนักช็อปปิ้งออนไลน์อยู่ในสายเลือด
อันดับที่ 1 ประเทศจีน
ในยุคนี้ จีนแทบจะเป็นที่ 1 ในเกือบทุกด้าน ส่วนหนึ่งนั้น มาจากจำนวนของประชากรจีนนั้นมีมหาศาล ทำให้เป็นที่มาของการครองแชมป์อันดับ 1 ในเรื่องของการช็อปปิ้งออนไลน์ และยังมีการแข่งขันกันอย่างร้อนระอุระหว่าง Alibaba และ Amazon ไม่เพียงแค่นั้น ยังมี Market Place เว็บไซต์ยักษ์ใหญ่และผู้นำหัวหอกของ Alibaba ที่ได้รวบรวมร้านค้าชั้นนำจากจีนเอาไว้ที่ Taobao และ Tmall จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เปอร์เซ็นต์ในการใช้เงินจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ จะอยู่ที่ 19.34% ของรายได้
อันดับที่ 2 ประเทศเม็กซิโก
เม็กซิโกเป็นประเทศทางฝั่งละตินอเมริกา ที่มีอัตราการใช้เงินซื้อสินค้าบนโลกออนไลน์โดยประมาณ 15.66%-17.66% เฉลี่ยจากรายได้ 17.31% ซึ่งนับเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ เม็กซิโกยังเป็นอีกประเทศที่เหล่า Market Place หมายตาและต้องการเข้ามาทำตลาด
อันดับที่ 3 ประเทศอินโดนีเซีย
ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของเอเชีย ที่มีผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์มากที่สุด และกิจกรรมโดยส่วนใหญ่บนโลกออนไลน์ของชาวอินโดก็คือการช็อปปิ้งออนไลน์ เพราะฉะนั้นจำนวนเงินในการบริโภคหรือซื้อสินค้าออนไลน์ในประเทศนี้ จึงค่อนข้างเดินสะพัด โดยประมาณการใช้เงินกว่า 12.66% ของรายได้ทั้งหมด เพื่อช็อปปิ้งออนไลน์โดยเฉพาะ
อันดับที่ 4 สหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักร หรือประเทศอังกฤษ เป็นประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านแฟชั่นอย่างแท้จริง แต่ไม่ได้เด่นเฉพาะเรื่องแฟชั่นเท่านั้น หากแต่เป็นผู้นำในเรื่องการใช้งานบริการออนไลน์อีกด้วย เช่น ได้นำบิทคอยมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ สำหรับเรื่องการช็อปปิ้งออนไลน์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจสำหรับคนอังกฤษเลยสักนิด อีกทั้งพวกเขายังใช้เงินประมาณ 11.4% ของรายได้ทั้งหมดในการท่องโลกช็อปปิ้งออนไลน์อย่างเพลิดเพลิน
อันดับที่ 5 ประเทศอินเดีย
ถือได้ว่าเป็นประเทศ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแออัดของประชากร ส่งผลให้การช็อปปิ้งออนไลน์มีอัตราที่สูงพอๆ กับจำนวนของประชากรด้วยเช่นกัน โดยคนอินเดียใช้เงิน 10.63% ของรายได้ในการชื้อของออนไลน์ ทั้งนี้เกิดจากการที่ทาง Alibaba และ Amazon นั้นได้เข้ามาตีตลาดในอินเดียวนั่นเอง
อันดับที่ 6 ประเทศรัสเซีย
รัสเซีย เป็นประเทศยักษ์ใหญ่ของโลก แม้ว่าในบางช่วงหรือบางสถานการณ์จะเกิดความตึงเครียด แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรสำหรับประชากรผู้มีใจรักในการช็อปออนไลน์ ด้วยประชากรของรัสเซียใช้เงินเป็นจำนวน 10.55% ของรายได้ทั้งหมดเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ
อันดับที่ 7 ประเทศสหรัฐอเมริกา
หนึ่งในประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกอีกประเทศหนึ่ง และมักจะติดโผของผลการสำรวจทุกครั้งไป คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งครั้งนี้ติดอยู่ในอันดับที่ 7 ของการช็อปปิ้งออนไลน์สูงสุดในโลก แม้ว่าเศรษฐกิจในช่วงหลังๆ จะดูซบเหงาและเงียบเหงาอยู่บ้าง แต่นั่นกลับไม่ได้เป็นผลกระทบที่มีอิทธิพลต่อการช็อปปิ้งออนไลน์ของชาวอเมริกันแม้แต่น้อย โดยชาวอเมริกันแบ่งรายได้ 7.63% ของรายได้ทั้งหมดเพื่อช็อปปปิ้งออนไลน์
อันดับที่ 8 ประเทศเกาหลีใต้
ประเทศเกาหลีนั้น มีแหล่งช็อปปิ้งดังๆ อยู่หลายแห่งภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ย่านฮงแด และเมียนดง แต่ด้วยประชากรส่วนใหญ่นั้นชื่นชอบการช็อปปิ้งออนไลน์มากกว่า ทำให้สัดส่วนของการใช้เงินซื้อของออนไลน์จากรายได้ทั้งหมดอยู่ที่ 6.96%
อันดับที่ 9 ประเทศฝรั่งเศส
ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งน้ำหอม เป็นประเทศในฝันสำหรับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสายแฟชั่นที่อยากมาสัมผัสสักครั้งเป็นขวัญตา ฝรั่งเศสจัดอยู่ในอันดับที่ 9 ในเรื่องการช็อปออนไลน์ โดยประชากรของประเทศได้แบ่งรายได้โดยประมาณ 4.69% เพื่อซื้อสินค้าที่ปรารถนา และหมวดหมู่ที่ผู้บริโภคชอบซื้อนักหนาก็คือสินค้าแฟชั่น สิ่งนี้ยิ่งการันตีได้ว่าประเทศนี้คือเจ้าแม่แฟชั่นที่แท้จริง
อันดับที่ 10 ประเทศแคนนาดา
จากผลของการสำรวจ ชาวแคนนาเดียนได้ใช้เงินประมาณ 4.41% จากรายได้ทั้งหมดในการซื้อของออนไลน์ และพวกเขายังนิยมซื้อของออนไลน์ระหว่างประเทศจาก Market Place ของต่างประเทศ หรือบนเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างประเทศอีกด้วย
ข้อมูลดังกล่าวนี้ น่าจะเป็นประโยชน์และแนวทางสำหรับธุรกิจออนไลน์ต่างๆ ที่ต้องการตีตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษาตลาดจากทั้ง 10 ประเทศเหล่านี้ เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจวางแผนในการเริ่มต้นธุรกิจต่างประเทศไม่มากก็น้อย
โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับชิปปิ้งจีนและการจำหน้าสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ แน่นอนว่าประเทศจีนนอกจากจะช็อปปิ้งออนไลน์เก่งแล้ว ยังตีตลาดและทำธุรกิจประเภทค้าขายเก่งมากอีกด้วย ทำให้กลายเป็นประเทศที่ทั่วโลกจับตามองและให้ความสนใจอย่างมาก แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ติดโผ 1 ใน 10 ประเทศที่ช็อปปิ้งออนไลน์เก่งที่สุดในโลก แต่ประเทศไทยก็ให้ความสนใจในการสั่งซื้อสินค้าจากจีน โดยเฉพาะจากเว็บไซต์ 1688 Taobao และ Tmall รวมไปถึงการเลือกใช้บริการชิปปิ้งจีนเพื่อนำเข้าสินค้ามาภายในประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะพ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องสั่งสินค้าจำนวนเยอะๆ และต้องมีเอกสารการนำเข้าและการดำเนินเรื่องกรมศุลกากร ไว้ใจให้ Yalelogistics เป็นผู้ดำเนินการจัดการให้ เพราะมีบริการชิปปิ้งจีนและดำเนินการเรื่องกรมศุลกากรครบถ้วน จบในที่เดียว