1688 ในปัจจุบันธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีน กลายเป็นธุรกิจยอดนิยม และสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้กับพ่อค้าแม่ค้า
จนทำให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่หลายคนต่างตาลุกวาว อยากลงสนามแข่งขันในธุรกิจสายนี้กันเป็นจำนวนมาก ถึงอย่างนั้นธุรกิจประเภทนี้ ก็ยังมีช่องทางในการทำและต่อยอดได้อีกหลากหลายเส้นทาง
ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพ และรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างไม่เหมือนกับของประเทศไทย ด้วยจุดแตกต่างนี้เองทำให้กลายเป็นเสน่ห์และเต็มไปด้วยความน่าสนใจ กลายเป็นที่ต้องตาต้องใจของลูกค้าได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะเดียวกันหลายคนยังกลัวกับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว วิธีการนำเข้านั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด และไม่ว่าใครก็สามารถนำเข้าสินค้าได้ตามวิธีดังต่อไปนี้
ทำความรู้จักก่อนว่า ธุรกิจนำเข้าสินค้า คืออะไร?
ในการนำเข้าสินค้ามายังประเทศไทย ส่วนใหญ่สินค้ามักเป็นประเภทที่มีต้นทุนถูก นั่นหมายความว่าสินค้าโดยส่วนใหญ่มักถูกขนส่งหรือนำเข้ามาจากแดนมังกรหรือประเทศจีน การขนส่งอาจมากับทางเรือ ทางเครื่องบิน หรือทางรถบรรทุก จัดส่งมาจากโรงงานผู้ผลิต ซึ่งมักจะได้ราคาสินค้าที่ถูกกว่าตลาดทั่วไป
ต้องมีเอกสารสำคัญอะไรบ้างในการนำเข้าสินค้า
- ใบขนสินค้าขาเข้า
- ใบตราส่งสินค้า
- บัญชีราคาสินค้า
- บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ
- ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า
- ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (กรณีขอลดอัตราอากร)
- เอกสารอื่นๆ เช่น แค็ตตาล็อก เอกสารแสดงส่วนผสม เป็นต้น
ขั้นตอนดำเนินการในการนำเข้าสินค้า ต้องทำกันอย่างไร
ขั้นตอนที่ 1 ยื่นข้อมูลใบขนสินค้า
เมื่อพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ได้เตรียมเอกสารข้างต้นครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ให้นำข้อมูลทั้งหมดกรอกในระบบ Service Counter เพื่อแปลงข้อมูลของสินค้าเข้าสู่ระบบของกรมศุลกากร หลังจากที่ส่งข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบให้ถูกต้องว่า ชื่อและที่อยู่ผู้นำเข้าเลขประจำตัวผู้เสียภาษี พิกัดอัตราศุลกากร และราคาของสินค้านั้นถูกต้องหรือไม่ หากมีข้อผิดพลาดจะถูกส่งข้อมูลให้กลับมาแก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง และเมื่อข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดถูกต้องสมบูรณ์ ก็จะได้เลขที่ขนสินค้าเข้า
ขั้นตอนที่ 2 การตรวจสอบพิสูจน์ข้อมูลอย่างละเอียด
ขั้นตอนนี้ สินค้าจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียดตามเงื่อนไขที่ทางกรมศุลกากรได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งสินค้าจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ
ใบขนสินค้าขาเข้า ประเภทที่ไม่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Green Line) หมายถึง สินค้าประเภทนี้ พ่อค้าแม่ค้าจะต้องนำใบขนสินค้าขาเข้า ไปชำระภาษีอากร และวางประกันที่เกี่ยวข้องกับทางกรมศุลกากรได้เลย
ใบขนส่งสินค้าขาเข้า ประเภทที่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Red Line) หมายถึง ใบขนสินค้าประเภทนี้ พ่อค้าแม่ค้าจะต้องนำใบขนสินค้าไปติดต่อกับหน่วยงานประเมินอากรของท่านที่นำเข้าสินค้านั้นๆ ก่อน จนสินค้าประเภทนั้นกลายเป็นแบบ Green Line
ขั้นตอนที่ 3 การตรวจและการปล่อยสินค้า
เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อย และได้ดำเนินการจ่ายเงินค่าภาษีอากรครบถ้วนแล้ว ทุกอย่างจะถูกส่งต่อไปยังท่าเรือ โดยข้อมูลของสินค้าจะถูกตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งมีเพียงบางรายการของสินค้า ที่อาจต้องเปิดเพื่อตรวจสอบอีกรอบหนึ่งก็ได้
อย่างไรก็ตาม หากไม่ต้องการไปดำเนินการด้วยตนเอง 1688 แนะนำเลือกใช้บริการนำเข้าสินค้าจีนกับ Yale Logistics ได้เช่นกัน เราเป็นผู้นำเข้าสินค้าจีนแบบถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยดำเนินพิธีการศุลกากรให้ครบทุกขั้นตอน นำเข้าเอกสารทั้งหมดในชื่อของลูกค้า พร้อมขนส่งทางรถ ซึ่งใช้เวลาโดยประมาณ 4-7 วัน ด้วยประสบการณ์และการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ทำให้เรื่องการนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นเรื่องง่าย ประหยัด และตรวจสอบได้ แต่ถ้าหากยังไม่มีแหล่งช็อปปิ้งสินค้าจากจีน แนะนำเว็บไซต์ตัวกลางอย่าง Weshopchina ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มภาษาไทย ง่าย และสะดวกในการสั่งซื้อ เหมือนได้สั่งสินค้ากับทาง 1688 Taobao และ Tmall โดยตรง