นำเข้าสินค้าจากจีน อาจพบกับความล่าช้าในการจัดส่ง ซึ่งเป็นปัญหาหลักของธุรกิจที่ต้องพบเจออยู่บ่อยครั้ง
ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดของบริษัทขนส่งเอง หรือสถานการณ์บางอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้
เช่น สภาพอากาศ โรคระบาด อุบัติเหตุ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี การจัดส่งล่าช้า ย่อมส่งผลต่อชื่อเสียง ความภักดีของลูกค้าและกำไรของธุรกิจ ซึ่งทุกความผิดพลาดจากการขนส่งเป็นสาเหตุให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น จากการสำรวจพบว่า
- 97% ของผู้ค้าปลีก ไม่สามารถแก้ปัญหาหรือหาวิธีที่จะทำให้ชิปปิ้งรับผิดชอบต่อการจัดส่งที่ล่าช้าได้
- 80% ของลูกค้า จะไม่ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีประสบการณ์การจัดส่งในเชิงลบ
- 64% ของลูกค้า เลือกร้านค้าจากประสบการณ์การจัดส่ง
เห็นได้ชัดว่า การจัดส่งล่าช้า ทำให้บริษัทต้องสูญเสียลูกค้าเป็นจำนวนมาก การคืนเงินครั้งเดียวจากผู้ให้บริการไม่สามารถชดเชยกับประสบการณ์ที่ไม่ดีนี้ได้ และการสูญเสียลูกค้าเรียกได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดของการทำธุรกิจ เพราะลูกค้าจะไม่ไว้วางใจในธุรกิจที่ให้บริการบกพร่องและไม่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกอีกต่อไป
ความล่าช้าในการจัดส่งสินค้านั้นอาจพบเจอได้บ่อยครั้ง จนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา แม้แต่บริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่อย่าง FedEx และ UPS ยังเกิดความผิดพลาดจากการขนส่งโดยเฉลี่ยระหว่าง 6-12 % โดยเฉพาะในช่วงที่มีความต้องการใช้บริการสูงหรือมีการจัดส่งค่อนข้างมาก ก็อาจพบปัญหาความล่าช้าที่จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 30 % ยกตัวอย่างด้วยสถิติการจัดส่งสินค้าจากแคนาดาไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วง เดือนสิงหาคม 2561 ถึงมกราคม 2562 พบว่า
เปอร์เซ็นต์การจัดส่งสินค้าของลูกค้าแคนาดาไปสหรัฐอเมริกา ในช่วงเทศกาลวันหยุดเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม FedEx มีความล่าช้าของการจัดส่ง 7.05 และ 14.53 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ และคิดเป็น 12.87% ในเดือนมกราคม 2019 ในขณะที่ UPS มีอัตราความล่าช้า 14.39% และ 12.98% สำหรับการจัดส่งสินค้าจากแคนาดาไปสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม 2561 ส่วนในเดือนมกราคม 2562 อยู่ที่ 16.16%
สำหรับเปอร์เซ็นต์การจัดส่งของลูกค้าสหรัฐอเมริกาไปยังแคนาดาล่าช้า พบว่า ผู้ให้บริการทั้งสองรายมีอัตราการล่าช้าที่ค่อนข้างแย่กว่า โดย FedEx มีอัตราความล่าช้า 21.89% ในเดือนพฤศจิกายนและ 10.57% ในเดือนธันวาคม ส่วนเดือนมกราคม 2562 อยู่ที่ 12.27% ในขณะเดียวกัน UPS มีการจัดส่งที่ดีขึ้นถึง 35.86% ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ส่วนเดือนธันวาคมและมกราคมอยู่ที่ 25.63% และ 28.76% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม การจัดส่งที่ล่าช้า ส่วนใหญ่สาเหตุมาจาก ความผิดพลาดของมนุษย์, สภาพอากาศที่ไม่คาดคิด, การจัดการคลังสินค้าไม่ดี, ขาดการประสานงานระหว่างการขนส่งหรือปัญหาด้านศุลกากร (สำหรับการจัดส่งระหว่างประเทศ) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ความล่าช้าเหล่านี้ สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพหากมีมาตรการที่เหมาะสม
ดังนั้น เมื่อมีความล่าช้าในการขนส่งเกิดขึ้น มีหลายสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อจัดการหรือป้องกันความล่าช้าดังกล่าว ตลอดจนแสดงถึงความเป็นมือาชีพในการให้บริการลูกค้า อาทิ
- สื่อสารกับลูกค้า
เป็นสิ่งแรกที่ควรทำ โดยพยายามติดต่อกับลูกค้าและแจ้งให้ทราบถึงสถานะของพัสดุ ควรกล่าวขออภัยในความผิดพลาดและอธิบายสถานการณ์ให้พวกเขาฟัง
- ใช้บริการตรวจสอบอัตโนมัติ เพื่อระงับผู้ให้บริการที่รับผิดชอบ
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับบริการตามกำหนดเวลา โดยทำการตรวจสอบใบแจ้งหนี้ของผู้ให้บริการจัดส่ง ซึ่งผู้ให้บริการจัดส่งส่วนใหญ่รับประกันคืนเงินหากมีการส่งมอบล่าช้าจากความผิดพลาดในการบริการ เช่น UPS และ FedEx สัญญาว่าจะคืนเงินแม้ว่าจะล่าช้าเพียง 1 นาที แต่มีฟอร์มการร้องเรียนที่ทำได้ยากและมีเวลาจำกัด ดังนั้น จึงต้องมีระบบในการตรวจสอบผู้ให้บริการจัดส่งและรับเงินคืนทุกครั้งที่เกิดความผิดพลาด
- ติดตามการจัดส่งแบบ Real-Time
จะช่วยให้สามารถควบคุมกระบวนการจัดส่งได้มากขึ้นและช่วยตอบสนองต่อความล่าช้าได้ เมื่อสังเกตได้ว่ามีความล่าช้า ณ จุดใดในระหว่างขนส่ง ก็สามารถดำเนินการแก้ไขได้ เช่น ส่งพัสดุทดแทนให้เร็วขึ้นหรือแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับความล่าช้า
- ควบคุมสถานการณ์
เจ้าของธุรกิจจะเป็นผู้เผชิญหน้ากับความขุ่นเคืองของลูกค้าอยู่เสมอ ซึ่งการเผชิญหน้ากับสถานการณ์และพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อจัดการปัญหาอย่างจริงจัง จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและได้รับความเห็นใจจากลูกค้ามากขึ้น โดยดำเนินการอย่างรวดเร็วและเชิงรุก เช่น เป็นฝ่ายติดต่อลูกค้าก่อน ใช้วิธีโทรศัพท์โดยตรงมากกว่าใช้อีเมลในกรณีเร่งด่วน รวมทั้งควรอัปเดตสถานการณ์ต่างๆ หรือแบ่งปันข้อมูลที่มีให้ลูกค้าทราบเป็นระยะๆ
- ให้อำนาจการตัดสินใจแก่ลูกค้า
ลูกค้าจะใจเย็นลง หากเขารู้สึกว่าเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น ธุรกิจควรให้ทางเลือกแก่ลูกค้าในการตัดสินใจบางอย่างเพื่อช่วยหาทางออกของปัญหา
- ข้อเสนอพิเศษ
อีกขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพที่สามารถทำได้ คือ มอบข้อเสนอพิเศษ เช่น มอบส่วนลด 50% ของมูลค่าสินค้าหรือจัดส่งฟรีสำหรับคำสั่งซื้อ 2 รายการถัดไป ซึ่งจะช่วยลดความกังวลของลูกค้าและทำให้พวกเขารู้สึกเป็นคนสำคัญ อ่านวิธีจัดการกับปัญหาบนโซเชียลมีเดียได้ที่ How To จัดการคอมเมนต์เชิงลบ บนโซเชียลมีเดีย
- ระวังสัญญาการจัดส่งในวันเดียวกัน
เมื่อลูกค้าเลือกตัวเลือกให้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ในวันเดียวกัน นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคาดหวังไว้แล้ว ดังนั้น ความล่าช้าในการจัดส่งใดๆ จะทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจได้ เจ้าของธุรกิจจึงต้องมีความระมัดระวัง เมื่อได้ตกลงไว้ว่าจะจัดส่งสินค้าที่มีคำสั่งซื้อในวันเดียว นอกจากนี้ อีกวิธีที่สามารถทำได้ คือ ให้ตัวเลือกการจัดส่งในวันเดียวเฉพาะลูกค้าที่ต้องการรับการจัดส่งภายในระยะทางที่แน่นอนจากคลังสินค้า
- พิจารณาใช้ผู้ให้บริการหลายแห่ง
บริษัทขนส่งแต่ละแห่งนั้นย่อมมีบริการที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงต้องพิจารณาจุดแข็ง-จุดอ่อนของบริษัทแต่ละแห่งให้เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาจุกจิกกวนใจในการขนส่งไปได้
Yale Logistics บริษัทนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยมืออาชีพที่ให้บริการมายาวนาน ให้บริการขนส่งทางรถแบบไม่เหมาตู้ (LCL) จากจีนมาไทย ใช้ระยะเวลา 3-5 วัน พร้อมเดินพิธีการทางศุลกากรอย่างถูกกฏหมาย เอกสารครบถ้วน ถูกต้อง สามารถจัดทำ From E เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีนำเข้าได้ 0% พร้อมติดตามสถานะสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงบนหน้าเว็บไซต์
ที่มา: lateshipment