ชิปปิ้ง เพราะธุรกิจโลจิสติกส์ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้แรงงานด้านนี้เป็นที่ต้องการของตลาด มหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก จึงเปิดหลักสูตรเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์เพื่อผลิตบุคลากรด้านนี้โดยเฉพาะ
ข้อมูลจาก Bureau of Labor & Statistics ระบุว่ารายได้เฉลี่ยของอาชีพโลจิสติกส์หรืออุตสาหกรรมชิปปิ้งในปี 2016 อยู่ที่ 74,170 US/ปี หรือราว 2 ล้านกว่าบาท เฉลี่ยเดือนละเกือบ 2 แสนบาท ทั้งยังมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี
Yale Logistics ได้รวบรวม 7 อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดด้านโลจิสติกส์ในสหรัฐฯ ปี 2018 เรียงลำดับจากคะแนนสอบเข้ามาก-น้อย (อ้างอิงข้อมูลจาก www.collegechoice.net )
1. Massachusetts Institute of Technology (MIT)
MIT ถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกจากนิตยสาร Forbes และ Washington Monthly โปรแกรมโลจิสติกส์ของที่นี่เป็นหลักสูตรร่วมระหว่าง MIT และมหาวิทยาลัย Zaragoza ของสเปน โดย Eduniversity หน่วยงานจัดอันดับระดับอุดมศึกษาประเทศฝรั่งเศส ยกให้โปรแกรมโลจิสติกส์ของ MIT เป็นอันดับ 1 ของโลก ส่วนสเปนจัดให้เป็นที่ 1 สาขาโลจิสติกส์ในประเทศต่อเนื่องถึง 7 ปี
- University of Southern California (USC)
ภายในประกอบด้วยสถาบันการศึกษา The Marshall School of Business และ Viterbi School of Engineering ซึ่งเป็นสองสถาบันติดอันดับ 2 ใน 10 ที่โด่งดังด้านธุรกิจและโลจิสติกส์ของสหรัฐอเมริกา โดย USC เน้นการเรียนด้านวิทยาศาสตร์และการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ในคอร์สเรียนมีทั้งการทำโปรเจค, Case Study และทริปดูงานต่างประเทศ
- Lehigh University
ลีไฮ เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการกล่าวขานเป็นไอวี่ลีคที่ถูกปิดซ่อนเอาไว้ ด้วยความที่เป็นมหาวิทยาลัยขนาดเล็ก มีจำนวนนักศึกษาเพียง 5,000 คน แต่คะแนนสอบเข้าสูงไม่น้อยหน้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ สำหรับสาขาโลจิสติกส์ที่เปิดสอนเป็นหลักสูตร MBA ซึ่งจะรวมไปถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดในระบบโลจิสติกส์
- Northeastern University
U.S News & World Report (สถาบันข่าวสารและการจัดอันดับมหาวิทยาลัย) ยกให้ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีนวัตกรรมทันสมัยเป็นอันดับ 6 ของสหรัฐฯ โปรแกรมการศึกษาเป็นการเรียนร่วมกันของระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ในส่วนของการเรียนโลจิสติกส์เป็นหลักสูตร MBA ซึ่งคลาสในปี 2016 นั้น จำนวนนักศึกษาที่จบออกไป 100% ได้รับการจ้างงานโดยทันทีแบบไม่ต้องรอ
- Boston University
ที่นี่มีนักเรียนมาสมัครเรียนกว่า 33,000 คนจาก 17 โรงเรียนมัธยมทั่วสหรัฐฯ สำหรับคอร์สปริญญาโทการจัดการด้านโลจิสติกส์มี 10 คอร์ส ครอบคลุมด้านการขนส่งทั่วโลกไปจนถึงการออกแบบเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทางด้านโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้นักศึกษาไปศึกษาดูงานต่างประเทศเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านธุรกิจและเศรษฐกิจโลก
- Arizona State University (ASU)
สถาบันการศึกษาแห่งนี้ เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีนักเรียนสมัครสอบเข้าสูงสุดในสหรัฐฯ หรือเป็นจำนวนมากกว่า 72,000 คนในปี 2017 ด้วยหลักสูตรวิทยาศาสตร์สาขาโลจิสติกส์ที่ใช้ระยะเวลาเพียง 9 เดือน นักศึกษาจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานในระบบโลจิสติกส์และกรณีศึกษาของระบบโลจิสติกส์ทั่วโลก
- The Ohio State University (OSU)
OSU เป็นมหาวิทยาลัยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ด้วยจำนวนนักเรียนเกือบ 60,000 คน สำหรับโปรแกรมการเรียนของ OSU เป็นหลักสูตรวิศวกรรมโลจิสติกส์ ใช้เวลาเรียน 15 เดือน มีทั้งการเรียนภาคสนามและยังมีโอกาสได้เรียนรู้การทำงานจากบริษัทต่างๆ ในประเทศอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีตลาด E-Commerce ใหญ่ที่สุดในโลก จึงทำให้ระบบโลจิสติกส์หรืออุตสาหกรรมชิปปิ้งเฟื่องฟูและบุคลากรด้านนี้ยังเป็นที่ต้องการ มหาวิทยาลัยหลายแห่งจึงเปิดหลักสูตรรองรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานด้าน ชิปปิ้ง แต่สำหรับประเทศที่มีระบบโลจิสติกส์ดีที่สุดในโลกนั้น ข้อมูลอัพเดทจาก World Bank ในปี 2018 พบว่า ส่วนใหญ่คือประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งเยอรมนี จัดเป็นประเทศที่มีระบบโลจิสติกส์ดีที่สุดในโลก ด้วยคะแนน LPI หรือ Logistics Performance Index อยู่ที่ 4.20 สูงที่สุดใน 160 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 32 ด้วยคะแนน 3.41 คลิกอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 10 อันดับประเทศ ที่มีระบบโลจิสติกส์ดีที่สุดในโลกปี 2018 และปัจจุบันในประเทศไทยเอง ก็มีบริษัทที่ให้บริการชิปปิ้งชั้นนำมากมายที่ได้มาตรฐานและไว้ใจได้ อาทิ Shippingyou เป็นต้น