การจัดการความสัมพันธ์ในการขนส่งหรือ TRM (Transportation Relationship Management )เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและน่าเชื่อถือในเครือข่ายการขนส่ง ซึ่งในอนาคตอาจมีสิ่งที่เกิดขึ้นดังนี้

     1. ระบบบริหารและจัดการคลังสินค้าเข้าใจง่าย (Order Fufillment) 

     TRM จะช่วยให้กระบวนการบริหารและจัดการคลังสินค้าเข้าใจง่ายขึ้น โดยการจัดหากระบวนการทำงานที่ยืดหยุ่นด้วยระบบอัจฉริยะในตัว ทำให้ให้พนักงานในห่วงโซ่อุปทานหันมาให้ความสำคัญกับการตัดสินใจ (Decision-Making) และบทบาทการสร้างความสัมพันธ์ (Relationship-Building) มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังเปลี่ยนการทำงานที่ซ้ำซ้อนมาเป็นการใช้เครื่องมือการบริหารจัดการโดยข้อยกเว้น(Exception-Based Management) ซึ่งจะช่วยเพิ่มเป้าหมายในการสร้างความสัมพันธ์ สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างใกล้ชิดและมีความเป็นส่วนตัวกับเครือข่ายการขนส่งได้มากขึ้น

      2. เสริมพลังความคิดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Thinking)

     TRM กำลังจะเสริมพลังการคิดและการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน โดยการให้ข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่ายของกระบวนการปฏิบัติงานทั้งหมดแก่ทุกคนแบบเรียลไทม์ ทำให้การทำงานร่วมกันกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย มีการเชื่อมต่อกันด้วย IoT (Internet of Things) API (Application Program Interface) และ EDI (Electronic Data Interchange) รวมทั้งบริการเป็นไปได้จริง

     ยิ่งไปกว่านั้น การติดตามประสิทธิภาพของผู้ให้บริการผ่าน KPI แบบเรียลไทม์และการมองเห็นขั้นสูงเกี่ยวกับสมรรถนะของเรือ ผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตสามารถตัดสินใจได้อย่างมีการศึกษามากขึ้น สร้างแรงจูงใจให้กับ 3PLs (Third Party Logistics) บริษัททางโลจิสติกส์ และผู้ให้บริการ เพื่อให้บริการได้ดียิ่งขึ้น 

      3. วิวัฒนาการซอฟต์แวร์ TMS คือการทำให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric)

      TRM เป็นวิวัฒนาการของการคิดแบบลูกค้าเป็นศูนย์กลางในพื้นที่การขนส่ง ด้วย TRM รุ่นใหม่ ที่จะสามารถจัดการการติดต่อ การตั้งค่าส่วนบุคคลและผู้ให้บริการได้ยืดหยุ่นกว่าที่เคย ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถให้บริการลูกค้าด้วยเครื่องมือและการเข้าถึงข้อมูลขั้นสูง ในขณะเดียวกันก็สามารถจัดการและใช้งานร่วมกันกับผู้ใช้ที่หลากหลายได้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร

      อุตสาหกรรมการขนส่งกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างความสัมพันธ์และใช้แนวคิดลูกค้าเป็นศูนย์กลางมากขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจชิปปิ้งหรือโลจิสติกส์ไปสู่เป้าหมายเหล่านี้ แต่ละบริษัทจะต้องการสร้างความสัมพันธ์ในห่วงโซ่อุปทานที่ไม่ใช่แค่การสร้างความสัมพันธ์แบบผิวเผิน แต่เป็นการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ที่ต้องเอาใจใส่ให้มากขึ้น เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตอันใกล้

      Yale Logistics ผู้นำด้านการขนส่ง-ชิปปิ้งจากจีนมาไทย ด้วยทีมงานมืออาชีพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย  เดินพิธีการทางศุลกากรพร้อมเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง เป็นชื่อลูกค้าทุกฉบับ ถูกกฏหมายและได้มาตรฐาน มีเครือข่ายการขนส่งที่ครอบคลุมทั่วประเทศ การันตีคุณภาพการให้บริการด้วยประสบการณ์การนำเข้าที่ยาวนาน