ชิปปิ้ง เมื่อการส่งพัสดุไม่ใช่แค่ส่งถึงมือเท่านั้น แต่ ‘ความไว’ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการ Logistics ในแต่ละแบรนด์
โดยมีไปรษณีย์ไทยเป็นผู้บุกเบิกเจ้าแรกในการส่งแบบ EMS ให้พัสดุทั้งหมดถึงปลายทางภายเพียงใช้เวลาไม่กี่วัน
แต่สำหรับคำว่า ‘ไม่กี่วัน’ ที่ว่านี้กลับกลายเป็นระยะเวลานานเกินไปสำหรับคนยุคใหม่ โดยเฉพาะสินค้าจากร้านค้าที่ระบุว่าใช้เวลาส่งจากต่างประเทศหรือใช้เวลาจัดส่งอย่างมาก 1 สัปดาห์เป็นต้นไป ก็ยิ่งทำให้การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ บริษัทขนส่ง Logistics หรือชิปปิ้ง หลายๆ แบรนด์ได้ออกมาให้บริการแบบ Same-day Delivery หรือการส่งของให้ถึงปลายทางภายในวันเดียว
การให้บริการส่งของแบบ Same-day Delivery แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- แบบ On Demand คือ การส่งจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ยกตัวอย่าง Grab Delivery , Lalamove หรือ Kerry Express เป็นต้น
- แบบ Same-day คือ การส่งให้ถึงภายในวันเดียว แต่มีข้อแตกต่างตรงที่เวลาในการ Cut-Off ของสินค้า เช่น ผู้ส่งต้องนำสินค้ามายังศูนย์กระจายภายในเที่ยงวัน ซึ่งแบบ Same-day จะเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็น B2C ที่เป็นธุรกิจทั่วไป หรือแม่ค้าออนไลน์ เช่น DHL Parcel Metro เป็นต้น
‘ถึงการตลาดจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่ตลาดนี่นี้เองมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง’
นอกจากการเติบโตของธุรกิจ Logistics และชิปปิ้ง แต่ยังมีปัจจัยด้านอื่นที่ส่งผลให้ Logistics และชิปปิ้ง หลายแบรนด์ให้ความสนใจลงสนามการแข่งขันแบบส่งพัสดุแบบวันเดียวถึง นั่นคือ
- E-Commerce เติบโต เนื่องจาก Logistics เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องควบคู่ไปกับธุรกิจ E-Commerce เมื่อ ธุรกิจ E-Commerce เติบโต ธุรกิจ Logistics จึงต้องพัฒนาการให้บริการที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพื่อเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่
- เมื่อสั่งของแพง ใครๆ ก็อยากได้ของไว ยิ่งคนที่มีประสบการณ์ซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีมูลค่าสูงๆ ความลุ้นไม่ได้อยู่เพียงแค่การสั่งซื้อสินค้าเท่านั้น แต่สินค้าที่สั่งนั้นจะถึงมือผู้ซื้อหรือผู้บริโภคได้รวดเร็วขนาดไหน รวมไปถึงพัสดุที่ได้รับนั้นจะได้รับสภาพแบบไหนอีกด้วย ซึ่งบริการส่งพัสดุแบบ Same-day Delivery ได้เข้ามาช่วยแก้ไขในเรื่อง Pain Point ตรงนี้
นอกจากเรื่อง Track ที่สามารถเช็คได้ว่าสินค้าอยู่ตรงไหน แต่รวมไปถึงบริการในเรื่องของเวลาที่แสดงถึงความรวดเร็วในการส่งพัสดุ ช่วยทำให้เกิดความสบายใจมากขึ้นตามไปด้วย โดยสินค้าที่นิยมส่งแบบ Same-day Delivery มักเป็นสินค้า Electronics สินค้าแบรนด์เนมราคาแพง และสินค้าที่จำเป็นต้องทะนุถนอมในการขนส่งเป็นอย่างมาก
- ผู้บริโภคให้ความสนใจบริการ Same-day Delivery ส่งถึงไว ใครๆ ต่างเริ่มหันมาใช้บริการ แม้การส่งแบบ Same-day Delivery จะเข้ามาในเอเชียแปซิฟิกช้ากว่าภูมิภาคอื่นๆ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ขัดขวางการเติบโตในความต้องการของบริการนี้
ข้อมูล DHL Global ได้ระบุว่าบริการ Same-day Delivery มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และน่าจะถึงปี 2021 ภูมิภาคนี้ จึงคาดการณ์กันว่าจะกลายเป็นภูมิภาคที่มีสัดส่วนการใช้ Same-day Delivery มากที่สุด เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันบริการแบบ Same-day Delivery ของ Logistics ในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่ยังถูกจำกัดอยู่ในบริเวณพื้นที่ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ยิ่งคนเมืองกรุง มักต้องการความรวดเร็วในการจัดส่ง อีกทั้งศูนย์กลางของ Logistics ยังคงอยู่ในเขตเมือง ทำให้ความเป็นไปได้ในการจัดส่งวันเดียวถึง มีมากกว่าพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ในอนาคตอันใกล้ หลายๆ แบรนด์ต่างมีแนวโน้มในการขยายธุรกิจไปในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องที่เราต้องจับตาดูกันต่อไป
สำหรับบริการชิปปิ้งหรือนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศยังคงต้องใช้เวลาในการดำเนินเรื่อง โดยทาง Yale Logistics เป็นผู้นำเข้าสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ช่วยให้การนำเข้าสินค้าผ่านกรมศุลกากรได้อย่างไม่มีปัญหา ด้วยประสบการณ์และทีมงานมืออาชีพ โดยมีบริการให้เลือกใช้บริการทั้งเรื่องของเอกสารและขนส่งสินค้า
อ้างอิงข้อมูล : https://marketeeronline.co/archives/61661